ฟาสามัญ | ภาคฟานอกห้อง
ตอน 3 มุมมอง 5 วิธีการของฟาในงานชุมชน
เราอาจจะคุ้นเคยกับฟาที่ทำงานอบรมหรืออำนวยการประชุม ดูเหมือนพื้นที่ทำงานจะอยู่ในห้องเป็นหลัก มีผู้เข้าร่วมจำนวนจำกัด มีหลักสูตร กำหนดการที่ชัดเจน
แต่การทำงานชุมชนนั้นอยู่นอกห้อง มีผู้เข้าร่วมหลากหลายและส่วนใหญ่ไม่ได้สมัครใจที่จะเข้าร่วม
แล้วเราจะใช้ทักษะฟาอย่างไร เมื่อเราต้องทำงานนอกห้อง ในคลิปนี้ เราจะชวนกันมาพิจารณามุมมองและเครื่องมือของเราต่อบทบาทฟาที่ต้องทำงานนอกห้อง
สามมุมมองเมื่อฟาออกจากห้องสู่ชุมชน
มุมมองแรก เปลี่ยนมุมมองจากห้องเป็นชุมชน
เมื่อเราขยายมุมมองพื้นที่ทำงานของเราเป็นชุมชน จากเดิมที่เราจะรับมือกับผู้เข้าร่วมที่หลากหลายในห้อง เราจะเห็นคนในชุมชนที่มีความต้องการ ความกลัว ความรู้ ความถนัดแตกต่างกันไป
ฟาทำงานกับกลุ่ม ดังนั้น ฟาจะทำงานกับชุมชนที่ประกอบไปด้วยคนในชุมชนนั้น นั่นหมายถึงการชวนให้คนในชุมชนมีเป้าหมาย และไปถึงเป้าหมายโดยใช้พลังของแต่ละคนมาร่วมกัน
แต่แน่นอนว่า ในชุมชนนั้นมีทั้งคนเห็นด้วย คนกลาง ๆ และคนที่ไม่เห็นด้วย จึงนำไปสู่มุมมองที่สอง
มุมมองที่สอง งานพัฒนาคือการต่อสู้ของผู้ถูกกดขี่
จากแนวคิดของเปาโล เฟรเร ในสังคมที่อยู่ในโครงสร้างของการกดขี่เช่นปัจจุบัน เราต่างคือผู้ถูกกดขี่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเลือกอยู่ข้างผู้กดขี่หรือผู้ถูกกดขี่ก็ตาม
การทำงานพัฒนาชุมชน คือการรวมกลุ่มผู้คนเพื่อสร้างอำนาจร่วม ไปใช้ในการสร้างสังคมที่เอื้อต่อความเป็นมนุษย์ เกื้อกูลดูแลกัน
ด้วยมุมมองนี้ งานของเราจึงนับรวมแม้กระทั่งคนที่ไม่เห็นด้วยกับเรา ในฐานะผู้ร่วมชะตากรรม และเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเรา
เราจะเปิดโอกาสให้ทุกคนไม่ว่าจะเห็นด้วยกับเราหรือไม่ ได้มีพื้นที่ในการต่อสู้กับการกดขี่นั้น บางคนอาจไม่เห็นด้วยกับเราเพราะกลัว เพราะไม่เห็นด้วยกับเป้าหมาย บางคนอาจไม่มีเวลา ไม่มีทรัพยากร ในเบื้องต้นเราอาจทำได้เพียงสร้างพื้นที่รวบรวมผู้คนที่เห็นด้วยกับเราก่อน แล้วค่อยๆ ขยายออกไป
มุมมองที่สาม งานพัฒนาคือกระบวนการเรียนรู้ของประชาชน
เราต่างเติบโตในสังคมที่ไม่เป็นธรรม จนอาจเผลอคิดไปว่าเป็นเรื่องธรรมดาและจะเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จนทำให้เราสิ้นหวังและยอมจำนนในที่สุด
แต่หากเราเปลี่ยนมุมมองใหม่ แสวงหาเส้นทางที่ต่างออกไป อาจจะยากเย็น เพราะเส้นทางสู่โลกที่เป็นธรรมเป็นเส้นทางที่ไม่เคยมีมาก่อน
วงจรการศึกษาของประชาชน จะช่วยให้เรามองงานพัฒนาเป็นกระบวนการเรียนรู้และท้าทายอำนาจ เริ่มจากประสบการณ์ของเรา มองหาจุดร่วมกับผู้อื่น เสริมเติมความรู้ ออกแบบแผนงาน และสรุปบทเรียน เราสามารถใช้มุมมองของวงจรการศึกษาของประชาชนในการออกแบบงานร่วมกับพี่น้องในชุมชนของเราได้
5 วิธีการทำงานนอกห้อง
จากสามมุมมองที่กล่าวมา เราก็จะนำมาประยุกต์ใช้ทักษะของฟามาช่วยในงานพัฒนาชุมชนได้ เช่น
1. สร้างพื้นที่ปลอดภัยในระดับชุมชน
พื้นที่ปลอดภัยคือพื้นที่ที่ทุกคนสามารถพูดและตัดสินใจได้อย่างเต็มที่ แม้อาจจะผิดหรือมีคนไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร และพร้อมเริ่มใหม่ได้เสมอ
การสร้างพื้นที่ปลอดภัยในชุมชนก็คล้ายกับในห้อง คือ
- มีการสร้างเป้าหมายร่วมกัน
- มีข้อตกลงที่ช่วยให้ทุกคนฟังกันและเปิดโอกาสให้กันและกัน เข้าใจเงื่อนไขของคนในชุมชนว่ามีความแตกต่างกัน
- มีโครงสร้างที่จะได้ยินกันและกัน เช่น แบ่งกลุ่มย่อย การให้เวลาแก่การฟังกัน
พื้นที่ปลอดภัยจะไม่สามารถสร้างได้พร้อมกันทุกคน จะมีบางคนที่เข้ามาก่อน จากนั้นจึงจะค่อย ๆ มีคนเข้ามาทีหลังหากมีพื้นที่ปลอดภัยมากพอ
2. เสริมสร้างพลังอำนาจด้วยความสำเร็จทีละขั้น
สังคมที่กดขี่กันและกันได้ทำลายความสามารถในการรวมกลุ่มและการกำหนดชีวิตตนเองของเราไป งานสำคัญของเราจึงเป็นการฟื้นฟูความสามารถเหล่านั้นกลับมา
ฟาในฐานะคนทำงานพัฒนาชุมชน จะเสริมสร้างพลังอำนาจในชุมชนทั้ง 3 ระดับ
ในระดับบุคคล เราจะฟื้นฟูความมั่นใจกลับมาด้วยการฟังกันและกัน และเสริมพลังด้วยการเพิ่มทักษะการทำงาน ความกล้าแสดงออก การชื่นชมกันและการยอมรับความผิดพลาด
ในระดับกลุ่ม เราจะค่อย ๆ เพิ่มพลังอำนาจของชุมชนด้วยการสร้างความสำเร็จทีละขั้น จากความสำเร็จเล็ก ๆ ไปสู่ความสำเร็จที่ใหญ่ขึ้น รวมทั้งการสร้างอำนาจร่วมให้เข้มแข็ง
ในระดับขบวนการ เราจะเชื่อมต่อกับองค์กรและเครือข่ายภายนอก เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เสริมพลังกันและกัน และทำให้ชุมชนตระหนักว่าเรามิได้โดดเดี่ยว หากแต่มีคนจำนวนมากที่มีความฝันความหวังดุจเดียวกัน เราคือส่วนหนึ่งของขบวนการเพื่อโลกที่ดีกว่า
3. สร้างเป้าหมายร่วม
การมีเป้าหมายร่วมจะช่วยให้ทุกคนรู้ว่าเรากำลังจะไปที่ไหนและควรจะทำอะไร ในชุมชนที่มีความหลากหลาย เราอาจจะตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนได้ยาก เราอาจจำเป็นต้องมีหลายเป้าหมาย โดยแบ่งเป็นด้านต่าง ๆ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของทุกคนในชุมชน
เป้าหมายควรเป็นในด้านบวก เช่น คุณภาพชีวิตที่ดี มีความมั่นคงในที่ดิน อาชีพ รักษาทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมชุมชน เป็นต้น
ในบางครั้งเราอาจได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก ซึ่งต่างก็มีวาระของตนเอง เช่น ด้านที่อยู่อาศัย ยาเสพติด การพนัน งดเหล้าเลิกบุหรี่ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รักษาวัฒนธรรม
เราต้องระวังว่าเราอาจเผลอนำเอาเป้าหมายของโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากภายนอกมาเป็นเป้าหมายของชุมชน จนกระทั่งสูญเสียเป้าหมายเดิมที่เคยตกลงกันและสูญเสียการมีส่วนร่วมไปอย่างน่าเสียดาย
เราจะมองเป้าหมายชุมชนเป็นเป้าหมายหลัก ส่วนเป้าหมายของโครงการจากภายนอกนั้นเป็นเป้าหมายย่อยที่จะนำมาสนับสนุนชุมชนของเรา เป็นหนึ่งในเครื่องมือทำให้ชุมชนพัฒนา
4. สร้างกิจกรรมที่หลากหลาย
หากิจกรรมที่คนสามารถมีส่วนร่วมได้ในมิติต่าง ๆ กัน ตามศักยภาพและเงื่อนไขแต่ละคนที่มีไม่เท่ากัน
เช่น บางคนอาจถนัดงานเก็บข้อมูลหรือเป็นผู้ให้ข้อมูล อย่างเช่น แผนที่ชุมชน ปฏิทินฤดูกาล องค์ความรู้ต่าง ๆ
หรือบางคนถนัดงานเอกสาร การเงิน
บางคนประสานงานได้ บางคนชอบปะทะ ประท้วง หรือบางคนก็ดูแลคนอื่น
ลองชวนกันคิดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อให้คนที่หลากหลายได้มีพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมตามเงื่อนไขของแต่ละคน เพื่อค่อย ๆ หลอมรวมกันทีละเล็กละน้อย
5. ถอดบทเรียนยกระดับชุมชน
เมื่อเสร็จงานหนึ่ง ๆ การกลับมาเจอกันเพื่อถอดบทเรียนก็จะช่วยให้แต่ละคนได้ทบทวนและสรุปบทเรียนตนเอง ได้เห็นงานของกันและกัน สร้างเป็นความรู้ร่วม พัฒนาอำนาจภายในและอำนาจร่วมแก่ชุมชนต่อไป
สามมุมมองห้าวิธีการนี้เป็นเพียงเบื้องต้นเท่านั้น ลองเอาไปใช้มองงานของเราดู และหากใครมีไอเดียหรือมุมมองใหม่ ๆ ก็ลองมาแลกเปลี่ยนแบ่งปันกันได้ ที่เพจ เราเท่ากัน สำหรับทักษะและเครื่องมือต่าง ๆ ของฟา สามารถค้นอ่านได้ในเวบไซต์ www.roottogether.net
สวัสดีครับ